เมืองเก่าสุโขทัย

เมืองเก่าสุโขทัย
เมืองเก่าสุโขทัย

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เนินปราสาทพระร่วง หรือเขตพระราชวังในสมัยสุโขทัย

เนินปราสาทพระร่วง หรือเขตพระราชวังในสมัยสุโขทัย   
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดกับวัดมหาธาตุ มีโบราณสถานแห่งหนึ่งเรียกว่า เนินปราสาท พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสันนิษฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นฐานปราสาทราชวัง ของกษัตริย์เมืองสุโขทัย กรมศิลปากรได้ขุดแต่งบูรณะ เมื่อ พ.ศ. 2526 พบฐานอาคารแบบฐานบัวค่ำ บัวหงาย มีลักษณะเป็นฐานสูงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 27.50X51.50 เมตร มีบันไดที่ด้านหน้า และด้านหลัง   

วัดชนะสงคราม


 วัดชนะสงคราม   
    ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของวัดมหาธาตุ ใกล้กับโบราณสถานที่เรียกว่าหลักเมือง เดิมเรียกว่า วัดราชบูรณะ มีลักษณะเด่นคือ เจดีย์ทรงระฆังกลมขนาดใหญ่ เป็นเจดีย์ประธาน และมีวิหาร โบสถ์ เจดีย์รายต่าง ๆ  

วัดมหาธาตุ

                                                                     วัดมหาธาต
                                                     
                                              




                                                  วัดมหาธาตุ
     ตั้งอยู่กลางเมือง เป็นวัดใหญ่ และวัดสำคัญของกรุงสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้ ตั้งเป็นเจดีย์ประธาน ล้อมรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ บนฐานเดียวกัน คือ ปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ที่ทิศทั้ง 4 และเจดีย์ทรงปราสาทก่อด้วยอิฐที่ได้รับอิทธิพลมาจากล้านนา จากการสำรวจ  พบว่าบริเวณวัดมหาธาตุมีเจดีย์แบบต่าง ๆ มากถึง 200 องค์ วิหาร 10 แห่ง ซุ้มพระ (มณฑป) 8 ซุ้ม พระอุโบสถ 1  แห่ง ตระพัง 4 แห่ง  ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพมหานคร ที่ด้านเหนือ และด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า "พระอัฏฐารศ"

พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช




พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช  
            สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518  ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ ลักษณะพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำ ขนาด 2  เท่าขององค์จริง สูง ๓ เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน แท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้าง ๆ ลักษณะพระพักตร์เหมือนอย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น ที่ถ่ายทอดความรู้สึกว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีน้ำพระทัยเมตตากรุณา ยุติธรรม มีความเด็ดขาดในการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ที่ด้านข้างมีภาพแผ่นจำหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย

เมืองเก่าสุโขทัย

                                    
                                   ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เมืองเก่าสุโขทัย
 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง ห่างจากตัวจังหวัดสุโขทัยไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๑๒ กิโลเมตร ถนนจรดวิถีถ่อง ทางหลวงหมายเลข 12  สายสุโขทัย-ตาก
ในอดีตเมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ ภายในอุทยานฯ มีสถานที่สำคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน โดยมีคูเมือง กำแพงเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
                บริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 ตารางกิโลเมตร และมีโบราณสถานสำคัญที่น่าชมมากมาย
อัตราค่าเข้าชม  นักท่องเที่ยว ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท หรือสามารถซื้อตั๋วรวมได้ ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมอุทยานฯ ต่าง ๆ ในจังหวัดสุโขทัยได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน เปิดให้ เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) หมายเหตุ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-21.00 น.  จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน 
 ในกรณีที่นำยานพาหนะเข้าเขตโบราณสถานจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย และที่บริเวณลานจอดรถของอุทยานฯ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีบริการ รถราง นำชมรอบ ๆ บริเวณอุทยานฯ อัตราค่าบริการ นักท่องเที่ยว ชาวไทย 10 บาท   ชาวต่างชาติ 20 บาท นอกจากนั้นที่บริเวณด้านหน้าอุทยานฯ มีบริการ รถจักรยาน ให้เช่าในราคาคันละ 20 บาท
                กรณีเข้าชมเป็นหมู่เป็นคณะ และต้องการวิทยากรนำชม หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม  ติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย 64210 โทร. 0-5569-7310
การเดินทาง  จากตัวเมืองสุโขทัย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถประจำทางสายเมืองเก่า (รถสองแถว) มีรถออกทุก 20 นาที จอดรอบบริเวณท่ารถใกล้ป้อมยามตำรวจมาลงที่หน้าอุทยานฯ มีรถออกทุก 20 นาที

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เพลงจบ Ano Hana Secret Base แปลคำร้องญี่ปุ่น

                                 เพลงจบ Ano Hana Secret Base แปลคำร้องญี่ปุ่น


Fennec Fox ข้อมูลการเลี้ยงจิ้งจอกทะเลทราย


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูป fennec Fox
Fennec Fox หรือ จิ้งจอกทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันในทางวิทยาศาสตร์ว่า Vulpes Zerda ซึ่งเป็นจิ้งจอกสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อของมันมาจากคำภาษาอาหรับ fanak ซึ่งแปลว่า สุนัขจิ้งจอก ด้วยหูของมันที่ขนาดใหญ่และลำตัวขนาดเล็ก จึงทำสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กตัวนี้ค่อนข้างน่ารัก คนส่วนใหญ่มักอยากได้มันมาเป็นสัตว์เลี้ยง
โดยทั่วไปแล้ว สุนัขจิ้งจอกประเภทนี้จะตื่นและออกหากินในเวลากลางคืน แม้ว่าพวกมันจะออกหากินเวลากลางคืน แต่พวกเขามักจะชอบนอนและเล่นในทรายที่มี่ความอบอุ่นจากแสงของดวงอาทิตย์

ลักษณะทั่วไปของจิ้งจอกทะเลทรายนี้จะมีใบหูขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวได้เหมือนหูของค้างคาว มีลำตัวขนาดเล็ก Fennec fox เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น จิ้งจอกสายพันธุ์ที่มีเล็กที่สุดในโลก

Fennec fox ถูกพบมากที่ ทะเลทรายซาฮารา ตั้งแต่แถบแอฟริกาเหนือไปจนถึงคาบสมุทรอาหรับ แหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ซึ่งมีอากาศร้อนในตอนเช้าและอากาศหนาวในช่วงเวลากลางคืน สภาพแวดล้อมแบบนี้จะมีแหล่งน้ำน้อย พวกมันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นเวลานานๆโดยไม่มีน้ำ เป็นสัตว์ที่ความคล่องตัว ฉลาดและมีไหวพริบมาก

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูป fennec Fox
 Fennec fox เป็นสัตว์ที่มีพลังงานสูงมากหรือพูดง่ายๆว่า ซนมากนั่นเอง พวกมันสามารถเดินทางจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่งในระยะทางไกลๆได้ โดยสบายๆ และพวกมันรักในการขุดอย่างมาก มันสามารถขุดหลุมหรือโพรงยาว 20 ฟุต ในเวลาเพียง 1 คืน ทั้งพวกมันยังสามารถกระโดดได้สูงและพุ่งเข้าใส่เพื่อ จับเหยื่อหรือหลบหนี ได้อีกด้วย

ความคล่องตัวของพวกมันช่วยให้ไล่ล่าเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว และในการล่านั้น มันก็มักจะเล่นไปด้วยอยู่ตลอดเวลา คล้ายๆกับแมว Fennec fox เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่น่ารัก ฉลาด มันมักจะเก็บหรือสะสมอาหารส่วนเกินของพวกมัน ในหลุมหรือโพรงที่พวกมันขุดขึ้นมา หลังจากที่เวลาผ่านไปหลายวันหรือเป็นเดือน สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ พวกมันสามารถจดจำแหล่งที่ซ่อนอาหารของมันได้ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายฤดูก็ตาม

ในการเดินทางในระยะทางไกลๆ พวกพวกมันจะทำเครื่องหมายที่มีกลิ่น โดยจำกลิ่นจากการปัสสาวะและกองอุจจาระของตัวมันเอง Fennec ดนป เป็นสัตว์ที่มีสังคมจะอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มประมาน 10 ตัว ภายในกลุ่มจะพบว่า เพศผู้ที่มีลักษณะโดดเด่นมากกว่าตัวอื่นนั้น มักจะทำเครื่องหมายที่มีกลิ่นมากกว่าตัวอื่นๆ

ในระหว่างการสืบพันธุ์นั้น Fennec fox จะมีเพียงคู่เดียวเท่านั้นในทั้งชีวิต (รักเดียวใจเดียวนั่นเอง) ตัวแม่จะทำหน้าที่คอยดูแลลูกในช่วง 2 สัปดาห์แรก อยู่ภายในโพรงส่วนพ่อจะทำหน้าที่ปกป้องอันตรายต่างๆในช่วงเวลานั้น จากนั้นทั้งแม่และพ่อก็จะคอยเลี้ยงลูกร่วมกันไปจนลูกมีอายุได้ 6 เดือนของอายุ แล้วจึงปล่อยให้ลูกเข้ากลุ่มของเขาเอง

โพรง หรือ บ้านของพวกมัน ส่วนใหญ่มักจะถูกสร้างขึ้นภายใต้พุ่มไม้ในทะเลทราย เพื่อให้รากของพืชเหล่านี้ใช้เป็นโครงสร้างของโพรง โพรงมีมากกว่าหนึ่งทางออกและทางเข้า และบางครั้งก็เหมือนเขาวงกตที่เชื่อมต่อกับกลุ่มอื่นๆได้

ถึงแม้ว่า Fennec fox จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มสังคม แต่เมื่อพวกมันไปหาอาหารมันจะไปเพียงตัวเดียวและจะออกหากินในเวลากลางคืนเท่านั้น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูป fennec Fox
 เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเลี้ยงเจ้าจิ้งจอกทะเลทราย
ข้อดี
  • มีขนาดเล็ก  หน้าตาน่ารัก เป็นสัตว์ที่ยังไม่ค่อยมีคนเลี้ยง จึงเป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง
  • มีอายุยืนยาวถึง 16 ปี
  • เป็นสัตว์ที่มีพลังงานสูง ขี้เล่น ซนมาก สามารถ วิ่งไปรอบ ๆ ได้ทั้งวัน ทำให้ไม่น่าเบื่อและมีความสนุกสนานกับการเล่นกับพวกมัน
  • แตกต่างจากสุนัขจิ้งจอกอื่น ๆ ตรงที่ไม่มีกลิ่นตัว (ยกเว้นกรณีที่ พวกเขาจะกลัว พวกเขาจะปล่อยกลิ่นเหม็นออกมา) แต่กลิ่นไม่ได้เลวร้ายนัก
  • คล้ายกับ แมว ตรงที่ ชอบทำความสะอาดตัวเอง ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำเป็นประจำ
  • ให้ ความรัก ความบันเทิง ที่น่าตื่นเต้น และความเพลิดเพลิน แก่ผู้เลี้ยง
ข้อเสีย
  • ถ้าบ้านของคุณ มีผู้คนมาเยือนอยู่บ่อยๆ อาจไม่เหมาะที่จะเลี้ยง เพราะ Fennec fox จะวิ่งหนีออกไปทันทีที่คุณเผลอ หากมันหนีออกไปได้แล้ว ยากที่จะตามกลับมา ซึ่งมันได้รับสมญานามว่า “escape artists”  คือมันจะไม่กลับมาบ้านคุณนั่นเอง
  • ฝึกสอนได้ยากมาก
  • Fennec Fox จะร้องเสียงแหลมดัง เมื่อพวกเขารู้สึกตื่นเต้น
  • เป็นสัตว์ที่ชอบการขุด ชอบทำลายข้าวของ ไม่เหมาะจะเลี้ยงบนพื้นพรม
  • ค่าใช้จ่ายที่จะต้องไปหาสัตวแพทย์อาจจะแพง เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แปลกใหม่ สัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์อาจหาได้ยาก
  • เลี้ยงกับสัตว์ตัวเล็กๆไม่ได้ เพราะมันจะเตะเล่น และ จับกินเป็นอาหาร
  • เป็นสัตว์มีขนาดเล็ก และเปราะบาง ถ้าไม่ระวังอาจทำให้กระดูกหักได้
  • พวกมันจะมาหาคุณ เมื่อมันต้องการเท่านั้น ปกติพวกมันจะวิ่งเล่นไปรอบ ๆ
  • ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูป fennec Fox 
  • โดยธรรมชาติแล้ว Fennec Fox ส่วนใหญ่ที่ดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายนั้นจะกินแมลงตัวเล็กๆ หรือ พืชผักผลไม้เป็นอาหาร แต่เมื่อเริ่มมีการนำเจ้าจิ้งจอกชนิดนี้มาเป็นสัตว์เลี้ยง ก็ได้เกิดการวิจัยทดสอบขึ้นว่า อาหารประเภทใดเหมาะกับ Fennec Fox จากการที่ผมได้ทำการศึกษาข้อมูลจากผู้เลี้ยงในต่างประเทศ สามารถสรุปได้คร่าวๆว่า อาหารยอดนิยมที่ใช้ในการเลี้ยง Fennec Fox ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการและไม่ทำให้เกิดอันตรายมี  5 อย่าง ดังนี้
    1.อาหารแมวกระป๋องแบบเปียกเกรดพรีเมี่ยม
    อาหารแมวหรือสุนัขที่ขายอยู่ในท้องตลาดนั้นก็สามารถนำมาให้ได้ แต่ควรเลือกที่ทำจากเนื้อคุณภาพดีหรือเกรดพรีเมี่ยม และควรสังเกตุที่ข้างฉลากว่าเหมาะกับสัตว์ขนาดเล็กรึเปล่า

    2.อาหารสนุัขชนิดเม็ดแห้งเกรดพรีเมี่ยม
    อันนี้ก็คล้ายๆ กับข้อที่ 1 โดยต้องเลือกอาหารที่ใช้ในการเลี้ยงสุนัขที่มีขนาดเล็ก เช่น อาหารสุนัขชิวาวา เป็นต้น

    3.หนอนนก
    เดิมตามธรรมชาติแล้ว พวกมันก็กินหนอนและแมลงเป็นอาหารอยู่แล้ว หากคุณได้ลองให้หนอนนกกับเจ้าจิ้งจอกน้อยนี้ดูหล่ะก็ มันจะกินอย่างเอร็ดอร่อย กินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อเลยทีเดียว การหาซื้อหนอนนกนั้น หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์หรือร้านขายปลาทั่วไป ส่วนใหญ่คนจะนิยมใช้เป็นอาหารสำหรับปลาสวยงาม

    4.ไข่ต้มแบบปลอกเปลือก
    ก็เมนูไข่ต้มธรรมดานี่แหละครับ แนะนำว่าไม่ควรทำไข่เจียวหรือไข่ดาวนะครับ ให้ต้มทั้งฟองแล้วปอกเปลือก ทีให้ต้มเป็นฟองก็เพราะว่า มันจะได้ใช้ฟันกัดเขี้ยวเล่นก่อน เค้าก็จะได้เล่นสนุกและบริหารฟันไปในตัวอีกด้วย

    5.ผลไม้สด
    ผลไม้ในที่นี่ก็จำพวกแอปเปิ้ล กล้วย สตรอว์เบอร์รี่ เมลอน หั่นเป็นชิ้นเล็กๆหรือฝานบางๆให้เค้าก็ได้ แล้วอย่าลืมเอาเมล็ดออกด้วยนะครับ เช่น แอปเปิ้ล เมล็ดเหล่านี้อาจมีสารไซยาไนด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อพวกมันได้

    เบื้องต้นก็ได้ทราบกันแล้วนะครับ ว่าอาหารหลักๆที่เราควรให้ Fennec Fox กินนั้นมีอะไรกันบ้าง ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงนั้นก็มีพวกของหวานๆ เช่น องุ่น ลูกเกด เป็นต้นส่วนรายละเอียดย่อยๆนั้น ผมยกไปไว้ในบทความถัดไปนะครับ



    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูป fennec Fox
     คราวที่แล้วเราพูดถึงอาหารที่ Fennec Fox ชอบทานกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูกันว่าอาหารที่ให้โทษและไม่ควรให้เจ้าจิ้งจอกน้อยนี้ทานมี อะไรบ้าง โดยข้อมูลทั้งหมดนี้อ้างอิงมาจากหนังสือ “คู่มือการเลี้ยงจิ้งจอกทะเลทราย” ที่ได้รับคะแนนความนิยมอย่างมากในหมู่คนเลี้ยงในต่างประเทศ ซึ้งผมได้นำมาแปลได้ใจความคร่าวๆดังนี้

    วิธีการดูว่าอาหารชนิดไหนดีหรือไม่ดีต่อ Fennec Fox ก็ให้สังเกตุง่ายๆ คือ “อาหารที่ไม่ดีต่อแมวหรือสุนัข ก็ไม่ดีต่อ Fennec Fox เช่นกัน” ยกตัวอย่างเช่น ไม่ควรให้กระดูกหรืออาหารที่มีลักษณะแหลมคม เพราะอาจทำให้ทิ่มคอของเค้าจนกลายเป็นแผลได้ และอาหารที่รสชาติเผ็ดก็เช่นเดียวกัน เมื่อเค้าทานเข้าไปแล้วจะทำให้มีกรดในกระเพราะมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เค้าปวดท้องหรือกระเพราะเป็นแผลได้

    Fennec Fox เป็นสัตว์ที่มีอยากรู้อยากเห็นมากตามสัญชาตญาณหมาป่า สิ่งที่ต้องระวังให้ดี คือ ถุงพลาสติกหรือของเล่นขนาดเล็กๆ พวกเขากินเข้าไปหล่ะก็อันตรายแน่ๆ ของเหล่านี้สามารถทำให้พวกเขาหายใจไม่ออกได้ ดังนั้นควรจะเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

    อาหารที่เป็นอันตรายต่อ Fennec Fox มีดังนี้

    ช็อกโกแลต
    เป็นอันตรายมากในช็อคโกแลตมีสารพิษที่สุนัขขับออกมาเองไม่ได้ หากกินเข้าไปแล้ว อาจทำให้หัวใจเต้นแรงหรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้

    อาหารดิบ
    ยิ่งปลาทะเลดิบหรือปลาแซลมอนดิบ เมื่อทานเข้าไปแล้วมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

    องุ่นและลูกเกด
    สามารถก่อให้เกิดภาวะโพแทสเซียมสูง อาเจียนและเป็นอันตรายต่อไต

    ชา กาแฟและคาเฟอีนทั้งหลาย
    สามารถทำให้เกิดการอาเจียน ท้องเสีย ชักและอาจเสียชีวิตได้

    หัวหอมและกระเทียม
    หากทานเข้าไปมากๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ ย้ำว่ามากๆนะครับ โดยปกติแล้วที่ใส่ในอาหารผัดทั่วไปถือว่าน้อยครับ

    มะเขือเทศดิบ พริก มะเขือดิบและมันฝรั่งดิบ
    มี สารไกลโคแอลคาลอยด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อ Fennec Fox (มะเขือเทศที่ทำให้สุกแล้วทานได้ครับ)

    ไซลิทอล (สารให้ความหวานเทียม)
    เป็นสารที่พบในยาสีฟัน ขนมและหมากฝรั่ง อาจเป็นอันตรายต่อตับได้

    เมล็ดผลไม้
    เช่น ในเมล็ดแอปเปิ้ลมีสารพิษไซยาไนด์ เมื่อทานเข้าไปมากๆอาจเป็นอันตรายได้

    อะโวคาโด
    สามารถก่อให้เกิดอาการท้องร่วงอาเจียนและหายใจลำบาก

    ลูกจันทน์เทศ
    สามารถทำให้เกิดอาการชักตายได้เลยอันตรายมาก

    เกลือและน้ำตาล
    ก็คล้ายๆกับคน หากทานเกลือมากเกินไปอาจทำให้เกิดไตวาย และถ้าทานน้ำตาลมากๆอาจทำให้เกิดโรคอ้วน

    ผลิตภัณฑ์จากนม
    มักจะมีไขมันสูงและสามารถก่อให้เกิดโรคท้องร่วง

    อาหารที่มีไขมัน
    เช่น มันเนื้อ มันหมู แฮม เป็นต้น ทำให้เกิดการอาเจียนท้องเสียได้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่มีไขมัน ทานเนื้อแดง ไก่ปลา จะดีที่สุดครับ

    ผักผลไม้ที่มีใยอาหารสูง
    เนื่องจากกระเพราะมีขนาดเล็กจึงทำให้ย่อยยาก

    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    อาจทำให้เกิดอาการอาเจียนท้องเสียและตายได้

    เหรียญบาท
    หากเก็บไม่เป็นที่ แล้วเค้ากินเข้าไปหล่ะก็ เป็นอันตรายแน่นอน

    เยอะมั้ยหล่ะครับ..เลี้ยงสัตว์ที่มีราคาแพงก็ต้องก็ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ หน่อยนะครับ ไว้จะอัพเดทบทความใหม่ให้เรื่อยๆ กดไลค์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ
     ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูป fennec Fox

วิธีการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปหนูแฮมเตอร์สีขาว
วิธีการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์อาหารหลัก ที่ควรให้แฮมสเตอร์ คือ ธัญพืชโดยจะโปรยอาหารลงบนพื้นก็ได้เพราะแฮมสเตอร์ไม่มีนิสัยชอบก้มกิน มันจะชอบหยิบอหารออกมากินนอกภาชนะมากกว่า โดยใช้เท้าหน้าจับอาหารกิน แต่การใช้ภาชนะมีข้อดี คือจะทำให้เราได้รู้ว่ามันเอาอาหารออกไปกิน มากน้อยแค่ไหน ถ้ามันป่วยเราก็รู้ได้ นอกจากนี้ การใส่ภาชนะยังทำให้อาหารและขี้เลื่อยไม่ปะปนกันทำให้การเปลื่ยนขี้เลื่อยทำ ได้ง่ายโ
ยไม่ต้องทิ้งอาหารที่ปนกับขี้เลื่อย
สิ่งที่ควรทราบในการให้อาหารแฮมสเตอร์

1. อย่าให้ผักสด หรือผลไม้สดบ่อยๆหรือมากเกินไป การให้ผักสดควรให้แค่สัปดาห์ละครั้งเพราะอาจจะทำให้แฮมสเตอร์ท้องอืด หรือท้องเสียได้และหากมันกินไม่หมดควรจะเก็บทิ้งทันที

2. พยายามอย่าเปลื่ยนอาหารแบบทันทีทันใด ควรจะค่อยๆ เปลื่ยนอาหารโดยเอาอาหารเก่า ผสมกับอาหารใหม่ และเพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่ให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทนที่อาหารเก่าในที่สุด อย่าเปลื่ยนแบบฉับพลัน

3. อาหารที่ควรหลีกเลื่ยงช็อคโกแลต โดยเฉพาะ Dark Chocolate เพราะมีสาร Theobromine ซึ่งเป็นพิษต่อแฮมสเตอร์ได้

4. หลีกเลื่ยงผักผลไม้ ที่มีรสเปรี้ยวๆ เช่น มะนาว ส้ม สับปะรด เป็นต้น

5. เราอาจจะเสริมโปรตีนให้กับแฮมสเตอร์ได้ โดยการให้อาหารเม็ดของแมวหรืออาหารสุนัขที่เป็น บิสกิต ใส่ลงไปได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งช่วยเสริมโปรตีนและยังช่วยลับฟันแฮมสเตอร์ไม่ให้ยาวเกินไปอีกด้วย

6. อาหารที่ไม่ปลอดภัยสำหรับแฮมสเตอร์ ได้แก่ หัวหอม มันฝรั่งดิบ กระเทียม น้ำอัดลม ลูกกวาด เป็นต้น

7. หลีกเลี่ยงอาหารที่แหลมคม หรือ เหนียวหนืด

8. ขนมหรืออาหารหวานๆเพราะแฮมสเตอร์แคระมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้

9. หลีกเลี่ยง อาหารเม็ดของกระต่าย เพราะบางชนิดใส่สารอาหารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้น การเจริญเติบโตในกระต่าย แต่เป็นอันตรายต่อแฮมสเตอร์

10. หลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเพรา

อาหารเสริมอื่นๆ

ไข่

หนู แฮมสเตอร์ชอบกินไข่ต้มที่ต้มสุก และไข่ต้มยังมีโปรตีนสูงอีกด้วยโดยเฉพาะในแม่แฮมสเตอร์ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ไม่ใช่ว่าให้ตลอด นานๆ ให้ทีถ้ากินไม่หมดต้องเก็บออกให้หมด

น้ำมันตับปลา

น้ำมัน ตับปลาจะอุดมไปด้วยวิตามิน A และ D ใช้โดยการหยดเพียงไม่กี่หยดลงบนเมล็ดพืชก็ได้สามารถให้ได้เพียงสัปดาห์ละ ครั้ง อาจจะให้อาหารเม็ด สำหรับสุนัขที่มีส่วนผสมของน้ำมันตับปลาก็ได้

เนื้อ

เรื่อง การให้เนื้อเป็นอาหารแก่แฮมสเตอร์นั้น เป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงทั้งหลายต่อต้านกันมานาน เพราะเชื่อว่า อาหารประเภทเนื้อจะกระตุ้น ให้แฮมสเตอร์ดุร้าย แต่ก็มีรายงานจากผู้เลี้ยงหลายๆ คนซึ่งให้เนื้อเป็นอาหารเป็นประจำว่าไม่มีการก้าวร้าวผิดปรกติแต่อย่างใด โกยอาจจะให้เป็น เนื้อวัวชิ้นเล็กๆ หรืออาจจะให้อาหารสุนัขที่บรรจุกระป๋องก็ได้

นม

อาจจะให้ได้บ้าง โดยเฉพาะแม่หนูที่กำลังท้อง หรือ อาจจะให้เป็นนมอัดเม็ดก็ได้

อาหารนกผสม

สามารถจะให้อาหารเม็ด เช่น เมล็ดพืชสำหรับนกก็ได้โดยให้สัปดาห์ละครั้ง

การผสมพันธ์
แฮม สเตอร์เป็นสัตว์ที่มีอายุขัยสั้น มันจึงต้องแพร่พันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ อย่าผสมข้ามพันธุ์แฮมสเตอร์หากท่านยังไม่พร้อม สำหรับชีวิตน้อน ๆ อีกหลาย ๆ ชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นมา ท่านมีกรงให้พร้อมหรือไม่ท่านมีเวลาเพียงพอสำหรับมันหรือไม่

โปรดศึกษาแฮมสเตอร์ให้เข้าใจก่อนผสมพันธุ์ เพื่ิอให้ลูกที่เกิดออกมาแข็งแรงและไม่มีข้อบกพร่องทางพันธุ์กรรม

SYRAIN

Syrain เป็นแฮมสเตอร์ที่รักสันโดษ หากเราปล่อยให้ Syrainหลาย ๆ ตัวอยู่ด้วยกันมันมักจะกัดกัน ดังนั้นการจับคู่ Syrain เพื่อการผสมพันธุ์นั้น เราจำเป็นต้องระวังมาก ๆ

Syrain เพศเมีจะเป็นฮีทในทุกๆ 4 วัน ในการผสมพันธุ์ต้องเตรียมรังไว้ให้ก่อนโดยการใส่วัสดุปูพื้นใหม่ลงไป และหลังจากนั้นใส่วัสดุตัวผู้ลงไปก่อนและปล่อยให้ตัวผู้เดินไปมาและสร้าง กลิ่นก่อนสั
พักหลังจากนั้นจึงค่อยใส่ตัวเมียลงไป หากตัวเมียต่อต้าน ไม่ยอมรับการผสมพันธุ์โดยการจู่โจมหรือการเข้าทำร้ายตัวผู้ ให้รีบแยกตัวตัวเมียออกก่อนที่จะมีตัวใดได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้หากแฮมสเตอร์ตัวเมียไม่ได้เป็นฮีท มันก็อาจจะไม่ยอมรับการผสมจากตัวผู้และอาจจะทำร้ายตัวผู้ได้

หลังจาก นั้นอีก 2-3 วันให้ทดลองใหม่อีกครั้ง หากแฮมสเตอร์ตัวเมียเมื่อปล่อยลงไปแล้วยืนอยู่นิ่ง ๆ และเหยียดขาตรง ยกหางชี้ขึ้นแสดงว่าตัวเมียยอมรับการผสมพันธุ์ หลังจากนั้นปล่อยให้แฮมสเตอร์ผสมพันธุ์กันประมาณ 20 นาทีและแยกแฮมสเตอร์ออกจากกัน เพราะหากปล่อยตัวผู้ไว้กับตัวเมียนานเกินไป ตัวเมียอาจจะตัดสินใจกำจัด หรือทำร้ายตัวผู้ได้ หลังจากนั้น 16-18 วันหากผสมติด เราจะได้ลูกแฮมสเตอร์สีชมพูอยู่ในกรง

การเลือกซื้อหนู

ควร เลือกซื้อแฮมสเตอร์ในช่วงเวลาเย็น ๆ เพราะแฮมสเตอร์จะนอนในเวลากลางวันจะงัวเงีย ทำให้ดูยาก เวลาป่วยหรือไม แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาตอนเย็น มันจะคึกคักทำให้ดราเลือกได้ง่ายกว่า และเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นระหว่างตัวที่ซึม เพราะป่วยและตัวที่ไม่ป่วย

เลี้ยงหลายตัวได้หรือไม่

อาจ จะเลี้ยงแฮมสเตอร์มากกว่า 1 ตัวในกรงเดียวกันได้ แต่ขึ้ยอยู่กับพันธุ์ของแฮมสเตอร์ด้วยถ้าเป็นแฮสเตอร์แคระแล้วหล่ะก็ มันเป็นสัตว์สังคมพอสมควรสามารถจะเลี้ยงด้วยกันได้หากเลี้ยงไว้ด้วยกัน ตั้งแต่เล็ก มักไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกันแต่ไม่ควรเลี้ยงแฮมสเตอร์ต่างสายพันธุ์ไว้ด้วย กัน เพราะนิสัยจะแตต่างกันจะทำให้มัเครียดและอาจจะกัดกันจนตายได้ หรือเกิดปัญหาจาการผสมข้ามพันธุ์

อย่าใส่ถุงกระดาษกลับบ้าน ถ้าต้องการเดินทางนาน ๆ

เวลา ที่เราซื้อแล้ว ร้านขายสัตว์เลี้ยงอาจะเอาแฮมสเตอร์ใส่กล่องหรือถุงกระดาษนำกลับบ้่าน แต่ถ้าเราต้องใช้เวลาเดินทางนานแฮมสเตอร์อาจจะแทะทะลุถุงกระดาษออกมาและหลบ หนีได้ เราจะขอให้ผู้ขายเปลื่ยนจากถุงกระดาษมาใส่ภาชนะพลาสติกแทน

ควรจะเลือกแฮมสเตอร์ที่สุขภาพดี

แฮม สเตอร์ควรจะสะอาด ขนสะอาด ไม่มีอุจจาระเปื้อนหรือเหม็นผิดปรกติ และไม่ผอมผิดปรกติไม่ซึมไม่มีบาทแผลทั้งตัวและนิ้วเท้าหูต้องสะอาดท้งด้านใน และด้านน
ก ตาต้องสดใสและสะอาด

ควรจะเลือกแฮมสเตอร์ที่อายุระหว่าง 4-7 สัปดาห์

เพราะเชื่องง่ายถ้าเราเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ เพศไหนก็ได้ นิสัยไม่แตกต่างกันมาก